วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ครูเอกชน1.4แสนคนเฮ! ขึ้นเงินเดือน5% เมษาฯ ปีหน้า ตามขรก.

ครูเอกชน1.4แสนคนเฮ! ขึ้นเงินเดือน5% เมษาฯ ปีหน้า ตามขรก.

4701 นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการจัดสรรเงินค่าครองชีพให้กับครูโรงเรียนเอกชน ว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณได้แจ้งเรื่องมายัง สช.ว่าจัดงบฯเป็นเงินตกเบิกเป็นค่าครองชีพให้ครูโรงเรียนเอกชนได้ 5 เดือน ตั้งแต่พฤษภาคม-กันยายน 2553 เป็นเงิน 265 ล้านบาท หรือเดือนละ 53 ล้านบาท ส่วนเดือนอื่นๆ หลังจากนั้น ให้ สช.จัดเป็นงบฯ รายจ่ายประจำปี 2554 โดยให้ สช.ส่งข้อมูลตัวเลข และรายชื่อครูโรงเรียนเอกชนที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าครองชีพ ไปให้ เพื่อยืนยันจำนวนที่ชัดเจน โดยตนเร่งรัดให้แต่ละจังหวัดส่งข้อมูลดังกล่าวให้ สช.เพื่อรวบรวม และส่งต่อให้สำนักงบประมาณในภาพรวมพร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งตัวเลขครูที่จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพนี้มีประมาณ 74,400 คน จาก 3,650 โรงทั่วประเทศ โดยได้รับเดือนละ 750 บาท อย่างไรก็ตาม สช.พยายามทำข้อมูล และเร่งรัดการตกเบิกเงินดังกล่าวให้ทันก่อนสิ้นปี 2553 “ส่วนการ ปรับขึ้นเงินเดือนครูโรงเรียนเอกชนร้อยละ 5 พร้อมข้าราชการทั่วไปในวันที่ 1 เมษายน 2554 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบนั้น สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง ได้แจ้งว่ารับทราบมติ ครม.แล้ว และยืนยันที่จะปรับเงินเดือนให้ครูโรงเรียนเอกชนร้อยละ 5 ในวันที่ 1 เมษยน 2554 พร้อมข้าราชการทั่วไปแน่นอน ซึ่งจะมีครูเอกชนที่ได้รับการปรับเงินเดือนประมาณ 1.4 แสนคน ซึ่งน่าจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศได้ดี” นายชาญวิทย์กล่าว

มูดะ (Muda) ความสูญเปล่าในงาน


 

ความสูญเปล่า หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่า มูดะ (Muda) หมายถึงการทำงานที่ไม่มีผลงาน ซึ่งเมื่อพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้วเราจะพบ มูดะ อยู่ทั่วไปในทุกขั้นตอนการทำงาน และมีเป็นจำนวนมากเสียด้วย นอกจากนี้ มูดะ เองก็จะมีเพื่อนสนิทอีก 2 คนก็คือ มูระ (Mura) ที่แปลว่าความไม่สม่ำเสมอ และ มูริ (Muri) ที่แปลว่า สิ่งเกินความสามารถ หากเราพบเพื่อนทั้ง 2 ของ มูดะ ก็จะเป็นสัญญาณเตือนว่า มูดะ กำลังจะมาถึงสถานประกอบการของเราแล้ว
          เมื่อเรานำกฎ 80/20 ของพาเรโต้ เข้ามาพิจารณาค้นหาความสูญเปล่า ก็จะพบว่า งานที่เราทำอยู่ทั้งหมด 100% จะมีงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลงานอยู่ 80% และทำงานที่ได้ผลงานอยู่เพียง 20% ซึ่ง 80% ที่ว่านี้ก็คือ ความสูญเปล่า เราจึงมองหาได้ไม่ยากนัก เพียงแต่ว่าผู้ปฏิบัติงานจะมองเห็นหรือไม่เท่านั้น เพราะความสูญเปล่าอยู่ใกล้ตัวเรามากเหมือกับเส้นผมบังภูเขา
          ความสูญเปล่ามีอะไรบ้าง ในหนังสือ The Toyota Way หรือ วิถีแห่งโตโยต้า ได้แบ่งแยกความสูญเปล่าออกเป็น 8 ประเภทหลัก ๆ คือ
              1) การผลิตมากเกินพอดี (Over Production)
              2) การรอคอย - เวลาที่ใช้ในการรอปฏิบัติการ (Waiting – Time on Hand)
              3) การเคลื่อนย้ายหรือการขนย้ายที่ไม่จำเป็น (Unnecessary Transport or Conveyance)
              4) การผลิตโดยใช้ขั้นตอนมากเกินความจำเป็นหรือการผลิตด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง (Overprocessing or Incorrect Processing)
              5) พัสดุคงคลังที่มากเกินไป (Excess Inventory)
              6) การเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็น (Unnecessary Movement)
              7) ข้อบกพร่องของชิ้นส่วน (Defects)
              8) ความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ (Unused Employee Creativity)
          ซึ่งเราจะเห็นว่าเกือบทั้งหมดของงานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานเป็นความสูญเปล่า ไม่ว่าจะเป็น งานด้านการขนส่ง งานด้านคลังสินค้า งานด้านสินค้าคงคลัง งานที่เกี่ยวข้องกับด้านการผลิตและขั้นตอนการผลิต ดังนั้นแนวคิดและวิธีการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นแนวทางที่มุ่งการลดหรือขจัดความสูญเปล่าออกจากกระบวนการทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น แนวคิดการจัดแผนการขนส่งไม่ให้เกิดการวิ่งรถเที่ยวเปล่า หรือบรรทุกสินค้าไม่เต็มคันรถ การวางแผนเส้นทางการขนส่ง การกำหนดระดับของสินค้าคงคลังที่เหมาะสม การวางแผนการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า การนำ Bar Code เข้ามาใช้ในการทำงานเพื่อให้การทำงานรวดเร็วและมีความแม่นยำขึ้น การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ
          ดังนั้นงานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานจึงต้องหันมาให้ความสนใจมองหา ความสูญเปล่า หรือ มูดะ นี้อย่างจริงจัง และหาแนวทางการบูรณาการร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เกิดความกระชับในการทำงานมากที่สุด เพราะงานเหล่านี้ สามารถปรับลดได้ เปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ส่งผลกระทบถึงคุณภาพของสินค้า และที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าอีกด้วย
          ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกหน่วยงานจะหันมาเปลี่ยนทรงผมกันบ้าง (เลิกไว้ผมปิดหน้าบังภูเขาซะที) เพื่อเปิดโหงวเฮ้งที่ดีให้กับองค์กร จะทำให้มองเห็นภาพต่าง ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มองเห็นถึงต้นทุนและความสูญเปล่าจำนวนมหาศาลที่หลบซ่อนอยู่รอบตัว และเมื่อเราขจัดทิ้งไปได้ เราก็สามารถถอนทุนที่เสียไปได้ และอย่าลืมอีกเรื่องที่สำคัญ คือ ผู้ที่เห็น มูดะ ได้ดีที่สุดก็คือ พนักงานผู้ปฏิบัติงานนั้นเอง ต้องฝึกให้เขาตระหนักถึง มูดะ และนำเสนอแนวคิดเพื่อแก้ ข โดยที่ฝ่ายบริหารต้องให้ความสำคัญด้วยนะครับ มิฉะนั้นท่านก็จะได้ มูดะ ข้อที่ 8 เพิ่มเข้ามาอีก